ไขปัญหาจอภาพและการแสดงผล
สำหรับปัญหาเกี่ยวกับจอภาพนั้น มีมากมายหลายส่วน มีตั้งแต่จอภาพไปจนถึงการแสดงผลบนหน้าจอใน Windows จะมีปัญหาอย่างไรไปดูกัน
*เหตุใดภาพบนจอถึงกระพริบและสั่น
อาการจอภาพสั่นหรือกระพริบนั้น หากมีมากจะเป็นการรบกวนสายตาเป็นอย่างมากบางครั้งอาจปวดตาหรือมึนหัวได้อย่างรวดเร็ว สาเหตุเกิดจากการรบกวนของสัญญาณไฟฟ้า
เลือกความละเอียดในการแสดงผลแบบใดดี
สำหรับความละเอียดในการแสดงผลก็คือ ความละเอียดของหน้าจอ ยิ่งถ้าตัวเลขมาก ค่าความละเอียดก็จะสูง ตัวอักษรที่แสดงผลในหน้าจอก็จะเล็กลง และคมชัดขึ้น
โดยการเลือกความละเอียดในการแสดงผลจะต้องสำพันธ์กับจอภาพด้วย ไม่อย่างนั้นจะต้องปวดตาในการทำงานซึ่งค่าความละเอียดในการแสดงผลที่เหมาะกับขนาดของจอภาพแต่ละขนาดนั้น ได้รวบรวมไว้เบื้องต้นดังนี้
หน้าจอขนาด 14”ใช้ความละเอียด 640*480
หน้าจอขนาด 15” ใช้ความละเอียด 800*600
หน้าจอขนาด 17” ใช้ความละเอียด 1024*800
ดูว่าระยะการวางลำโพงกับจอภาพใกล้กันหรือเปล่า
หากใกล้กัน ให้วางตัวลำโพงให้ห่างจากจอคอมพิวเตอร์ 5” ขึ้นไป เพราะว่าตัวลำโพงจะประกอบด้วยแม่เหล็กแรงสูงอยู่ภายในจึงทำไห้มอนิเตอร์ที่มีการใช้สนามแม่เหล็กในการควบคุมเกิดอาการสั่น
หาลำโพงทีมีตัวป้องกันคลื่นแม่เหล็ก
ถ้าเปลี่ยนการวางแล้วยังไม่ช่วยไห้หน้าจอหายสั่น แนะนำไห้ซื้อลำโพงที่มีตัวป้องกันคลื่นแม่เหล็กมาใช้ โดยไห้สอบถามผู้ขายว่ารุ่นไหนมีตัวป้องกันคลื่นแม่เหล็กบ้าง
จากรูปลำโพงมีระบบป้องกันแม่เหล็ก
ส่งจอภาพไปตรวจซ่อม
หากทำทุกขั้นตอนแล้ว ยังไม่ช่วยไห้หน้าจอหยุดกระพริบหรือสั่น เป็นไปได้ว่าจอภาพอาจมีปัญหา ให้ยกจอภาพไปตรวจสอบยังร้านที่ซื้อมาถ้ายังอยู่ในระยะประกันจะไม่เสียค่าซ่อมแต่อย่างใด (บางครั้งอาจได้ตัวใหม่ หากซื้อไปไม่นาน) แต่ถ้าหากหมดประกันต้องเสียค่าซ่อม ขั้นต่ำอยู่ที่ 500 บาท
ถ้าตรวจซ่อมแล้วไม่พบอาการ
ถ้าหากนำไปตรวจซ่อมแล้วยังไม่พบอาการหน้าจอสั่น ให้ไปหาซื้อ UPS หรืออุปกรณ์สำรองไฟฟ้ามาใช้งานได้เลย เพราะอาการที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ที่อุปกรณ์ แต่อยู่ที่กระแสไฟฟ้า ทั้งกระแสไฟไม่สม่ำเสมอ กระแสไฟอ่อน
ซึ่งตัว UPS นี้ จะปรับกระแสไฟฟ้าให้คุณเอง นอกจากจะทำไห้หน้าจอกระพริบหายสั่นแล้ว UPS ยังช่วยป้องกันไฟกระชาก และ เป็นตัวจ่ายไฟเวลาไฟดับได้อีกด้วย โดยสามารถซื้อขาย UPS ได้ตามร้านค้าขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วไป
ทำไมภาพบนหน้าจอบิดเบี้ยวไม่เป็นกรอบสี่เหลี่ยม
จะว่าไปมันมักเกิดขึ้นเองก็ไม่ผิด นั่งเล่นปรกติไม่มีปัญหาอะไร แต่ปิดแล้วเปิดเครื่องใหม่ ปรากฏว่าหน้าจอเบี้ยว แต่ไม่ต้องกังวล ปัญหานี้มีวิธีแก้ไข มาดูวิธีแก้ไขเบื้องต้นกัน
ปรับค่าจากเมนูของจอภาพ
ตามปรกติแล้วจอภาพจะมีเมนูในการปรับแต่งภาพอยู่ ให้ลองปรับค่าดูก่อน ซึ่งการปรับค่าให้ดูตามภาพประกอบได้เลย
ปรับค่าจาก Windows
ถ้าปรับค่าจอภาพแล้วยังไม่หาย ให้ลองปรับแต่งในการแสดงผลใน Windows ใหม่ โดยอันดับแรกให้ปรับค่าความละเอียด
ปรับค่าจาก Windows
ถ้าปรับค่าจากจอภาพแล้วยังไม่หาย ให้ลองปรับแต่งค่าการแสดงผลใน Windows ใหม่ โดยอันดับแรกให้ปรับค่าความละเอียดระดับสีก่อนหากยังไม่หายก็ไห้ปรับแต่งอัตราการกระพริบของหน้าจอ ซึ่งขึ้นตอน ปรับ แต่งทั้งใน Windows XP
ส่งร้านที่ซื้อมาเพื่อตรวจสอบ
หากแก้ไขตามวิธีการทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ งานนี้เห็นทีจะต้องส่งเครื่องไปให้ทางร้านตรวจสอบดู อย่าซ่อมเองเป็นอันขาด โดยค่าซ่อมจะเริ่มที่ 500 บาทขึ้นไป หากราคาไม่เกิน 1200 บาทก็พอซ่อมได้ แต่หากแพงกว่านี้ แนะนำไห้ซื้อใหม่ เพราะราคาจอเพิ่มใหม่อีกนิดหน่อยก็สามารถซื้อได้แล้ว
ใช้คอมอยู่ดีๆจอเหมือนจะดับ เกิดอะไรขึ้น
อาการนี้เกิดขึ้นหลังจากใช้คอมพิวเตอร์มาสักระยะหนึ่ง (ระยะการใช้งานของเครื่อง) โดยภาพของจอจะมีอาการเหมือนจะดับ (แต่ยังไม่ดับ) ช่วงแรกๆอาจเป็นน้อย นานๆ ถึงจะเจอ แต่ใช้ต่อไปอีกซักระยะอาการดังกล่าวอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุก็เกิดจากหลอดภาพของจอเสีย
สำหรับการแก้ไขปัญหานั้น ซ่อมอย่างเดียว หากมีประกันก็ส่งเคลมกับร้านค้าที่ซื้อมา แต่ถ้าหมดประกันแล้วก็ต้องส่งซ่อมตามร้านซ่อม โดยไห้สอบถามราคาก่อนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ถ้าหากแพงเกินกว่า 1000 บาท ให้ซื้อใหม่จะคุ้มกว่า เพราะในตอนนี้จอภาพราคาถูก 3500-4000 บาท ก็ได้ประกันใหม่ 2 ปี
ทำไมสีบนจอภาพจึงเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือสีแดง
อาการที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะเหมือนจอเสียคือ ภาพที่แสดงออกมาจะอมม่วง หรือบางครั้งก็มีสีแดง โดยเป็นทั้งหน้าจอ ไม่ได้เป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
สำหรับสาเหตุของการเกิดปัญหานี้อยู่ที่หลอดภาพเริมมีปัญหา จะเกิดหลังจากใช้งานจอภาพมานาน แต่บางครั้งถ้าคุณโชคไม่ดีอาจพบปัญหานี้จากจอที่ซื้อใหม่ก็ได้ สำหรับทางแก้ไขต้องส่งซ่อมอย่างเดียว หากยังอยู่ในระยะประกันก็จะไม่ต้องเสียค่าซ่อมแต่ประการใด แต่ถ้าหมดประกันไปแล้วก็จะเสียค่าซ่อมประมาณ 500 – 700 บาท
